ปชป.รอดหนุนหุ้นขึ้น10จุด โบรกฯแนะติดตามปัจจัยนอก-การเมือง

ปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศหนุนดัชนีหุ้นไทยรีบาวน์ ดีดตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 10 จุด หลังศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ โบรกฯแนะติดตาม จีนขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการประชุมสหภาพยุโรป ส่วนปัจจัยในไทย จับตาผลการชุนนุมเสื้อแดง

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้ (9ธ.ค.) ดัชนีปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยปิดที่ระดับ 1,035.85 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด หรือ 1.05% มูลค่าการซื้อขาย 33,044.13 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ 1,037.42 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,027.00 จุด

หลายฝ่ายมองว่า เป็นการปรับตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยได้รับแรงหนุนจากศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังต้องติดตามการชุมนุมของนปช.วันนี้(10ธ.ค.)
ขณะที่ การซื้อขายสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุน สถาบันซื้อสุทธิ 861.83 ล้านบาท เช่นเดียวกับบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ซื้อสุทธิ 532.23 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 184.43 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,209.63 ล้านบาท

หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 245 หลักทรัพย์ ลดลง 103 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 141 หลักทรัพย์ และ5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่ PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 4,523.44 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,396.15 ล้านบาท ปิดที่ 804.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,961.44 ล้านบาท ปิดที่ 324.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,667.04 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง และ TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,538.87 ล้านบาท ปิดที่ 6.15 บาท ลดลง 0.05 บาท

นายธวัชชัย อัศวพรไชย รองผู้อำนวยการอาวุโส บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในวันก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค ทั้งนี้มองว่าปัจจัยโดยรวมทั้งต่างประเทศและในประเทศเวลายังเป็นบวก โดยปัจจัยต่างประเทศเรื่องที่ทางการจีนจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้ตลาดฯก็รับรู้กันไปมากแล้ว ส่วนความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะในยุโรปขณะนี้ก็มองว่ายังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และสหภาพยุโรป (EU) ก็เข้ามาติดตามอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 4 ต่อ 3 ยกคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ถือเป็นอีกแรงหนุนสำคัญที่ทำให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย และคงทำให้เสถียรภาพทางการเมืองมีมากขึ้น

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทถือเป็นแรงหนุนสำคัญให้ตลาดฯดีดตัวขึ้นและยังสามารถทรงตัวในแดนบวกได้อยู่ แต่ยังแนะนำติดตามการนัดชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ด้วย

สำหรับ ปัจจัยต่างประเทศเวลานี้มี 2 เรื่องที่ต้องติดตามคือ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของจีน ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะเป็นวันพรุ่งนี้ และการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป(EU)ในสัปดาห์หน้าที่จะมีการพิจารณาเรื่องสนธิสัญญาการชำระหนี้

ทำให้แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ทิศทางดัชนีขึ้นอยู่กับปัจจัยในต่างประเทศเป็นหลัก ต้องรอดูการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของจีน พร้อมให้แนวรับ 1,020-1,015 จุด แนวต้าน 1,050 จุด
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

คลังบทความของบล็อก