
มองเผินๆ กระบอกข้าวหลามจากต้นไผ่ ต้นไม้ลำไม่ใหญ่แถมข้างในเป็นโพรง กิ่งของมันไหวเอนไปตามลม ดูไม่น่าจะแข็งแกร่งแต่กลับแข็งแรงมากกว่าที่เราคิด
ไผ่อายุยืน โตเร็วและทนทาน ขยายพันธุ์จากกอไผ่ต้นน้อย แข่งกันแตกหน่อเติบโตเป็นกอใหญ่ ลำต้นแข่งขันสูงใหญ่ขึ้นไปจนใครๆ มองเห็นทั่ว
ยิ่งแข่งกันสูงใหญ่รับแสงจากดวงอาทิตย์ กอไผ่ยิ่งเติบโต ขยายอาณาจักรของมันออกไปอย่างไม่ลดละ เพราะสังคมของต้นไผ่แข่งขันกัน แต่ไม่ทำลายกัน
ไผ่หลายกอเติบโตรวมกันยามเมื่อลมพายุแรงๆ พัดใส่ ไผ่กอใหญ่กอนี้จึงแข็งแกร่ง ไม่ล้มหักโค่นลงง่ายๆ
ในความคิดของผม ไผ่จึงยืนหยัดเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงที่สุดท่ามกลางการแข่งขันและอยู่รอด
การโตแบบกอไผ่เคยเป็นกลยุทธ์ที่ผมนำมาใช้กับการบริหารธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงาน เมื่อสิบกว่าปีก่อน
ผมเริ่มต้นทำธุรกิจบนแนวคิด “ใหม่” แตกขยายร้านใหม่ออกไปบนทำเลเดียวกัน ด้วยเป้าหมาย ฝันอยากจะสร้างถนนสายวิวาห์ให้เบ่งบานที่ทองหล่อ เหมือนๆ ที่เกิดขึ้นบนถนนสายทองคำที่เยาวราช
ครั้งแรกที่ผมชวนพนักงานที่เก่งๆ แล้วในร้านแรกออกไปเปิดร้านใหม่แห่งที่ 2 “คุณแมว” หุ้นส่วนคนแรกของผม หวั่นใจไม่น้อยว่าจะเกิดปัญหาแย่งลูกค้ากันเองหรือไม่
แต่ผมยังคงยืนยันนโยบายเดินหน้าร่วมทุนเปิดร้านใหม่ๆ ให้โอกาสคนเก่งๆ ก้าวออกไปโตเปิดร้านใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่จะร่วมหุ้นเปิดร้านใหม่ บรรดาหุ้นส่วนร้านเดิมทั้งหมดจะสามัคคีกันเป็นแนวร่วมทักท้วง ส่วนรายล่าสุดก็มักจะขอยื่นคำขาดแกมขอร้องว่าให้ผมหยุดที่ร้านเขาเป็นร้านสุดท้ายจะได้ไหม
วันหนึ่งผมเลยต้องเรียกประชุมหุ้นส่วนทุกร้านมาคุยพร้อมกันหมด แจกแจงให้ฟังถึงแนวคิดการทำธุรกิจ เปรียบเทียบให้เห็นถึงการโตอย่างต้นไผ่
ขอให้แต่ละร้านแข่งขันกันเต็มที่ แต่อย่าทำลายกัน ให้แข่งกันที่ความขยัน แข่งกันที่การลดต้นทุน แข่งกันบริการให้ดีที่สุด ใช้การแข่งขันดึงดูดลูกค้า สร้างบรรยากาศตลาดให้คึกคัก
เครือข่ายธุรกิจแบบแข่งขันกันแต่ยังช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เปรียบเหมือนเป็นกอไผ่ที่ยิ่งแตกก็ยิ่งเติบโต
ในที่สุดตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดและรายได้ในบัญชีก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้หุ้นส่วนยอมรับว่าการมีร้านมากขึ้น ไม่ได้กระทบต่อยอดขายเดิม ตรงกันข้ามกลับเป็นจุดขายที่ทำให้ตลาดยิ่งโตกว่าเดิม
มองย้อนกลับไปวันนี้แม้ธุรกิจสตูดิโอถ่ายรูปแต่งงานอาจจะไม่ได้บูมเหมือนยุคขาขึ้นในอดีต แต่การที่เรายังยืนหยัดสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานจนถึงปัจจุบัน
ผมถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็น “ตัวจริง” ในสังเวียนธุรกิจที่ยังยืนหยัดอยู่ได้บนถนนสายเวดดิ้งในทองหล่อ
วันนี้ กลยุทธ์โตอย่างไผ่ยังเป็นโมเดลที่ผมหยิบมาใช้อีกครั้งกับธุรกิจใหม่ร้านราเมนแชมเปี้ยน อารีน่า ทองหล่อซอย 10
โมเดลที่รวมเอาสุดยอด 6 ร้าน “ราเมน” ต้นตำรับมาต่อกรเปิดแข่งกันในพื้นที่เดียวกัน แทนที่จะมองว่าแย่งกันลูกค้า กลับยิ่งช่วยสร้างความคึกคักให้อารีน่ากลายเป็นทำเลนัดพบประสบการณ์ความอร่อยแห่งใหม่ เพราะมีความหลากหลายเมนูและบริการให้ลูกค้าได้เลือกสรรในที่เดียว
นอกจากราเมนทั้ง 6 ร้านจะขายดีแล้ว ร้านช็อกโกแลตและไอศกรีมอย่าง Melt me ก็พลอยคึกคักขึ้นไปด้วย
เมื่อ “การแข่งขัน” กลายมาเป็น “จุดขาย” ทางเลือกใหม่ๆ สำหรับลูกค้า..ยิ่งแข่ง ก็ยิ่งโตครับ
ที่มากรุงเทพธุรกิจออนไลน์