สำนักข่าวจีจีเพรส ในประเทศญี่ปุ่น รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังที่จะพิจารณาสร้างเมืองหลวงสำรองไว้ใช้ปฏิบัติหน้าที่บริหารบ้านเมือง
ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินอย่างไม่คาดฝัน ถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีครั้งใหญ่ หรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติรุนแรง ถล่มกรุงโตเกียวเสียหายหนัก เหมือนเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 9 ริกเตอร์ และคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างย่อยยับในเมืองที่อยู่บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 20,000 คน และก่อให้เกิดวิกฤตินิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิ
จีจีเพรส รายงานว่า คณะกรรมการชุดใหม่จะหารือเกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าวโดยเร็วที่สุดภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ และกระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคม และท่องเที่ยวจะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลว่า หากเกิดหายนะภัยครั้งใหญ่ในใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นศูนย์กลางทั้งทางการเมือง และเศรษฐกิจสำคัญ อาจก่อความเสียหายร้ายแรงให้กับทั้งประเทศได้
ทั้งนี้ คาดว่าคณะกรรมการชุดนี้จะพิจารณาย้ายการทำงานบางส่วนของกรุงโตเกียวไปยังสถานที่อื่น ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งเดียวกัน นอกจากนี้ คณะกรรมการดังกล่าวยังจะหาวิธีที่เมืองหลวงสำรองจะทำงานได้อย่างไร รวมถึงว่าควรมีพนักงานประจำไว้ด้วยหรือไม่
ขณะที่ นายโทรุ ฮาชิโมโต ผู้ว่าการจังหวัดโอซากา เสนอให้ใช้จังหวัดของเขา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเป็นเมืองหลวงสำรอง
ญี่ปุ่นตั้งอยู่บนจุดเชื่อมต่อของแผ่นเปลือกโลก 4 แห่ง โดยในแต่ละปี ต้องประสบเหตุแผ่นดินไหวที่ถือว่าร้ายแรงที่สุดในโลกถึงร้อยละ 20 อีกทั้งนักธรณีวิทยาก็เคยเตือนว่า กรุงโตเกียวเสี่ยงที่จะเจอกับแผ่นดินไหวรุนแรงเหล่านั้นด้วย
ที่มา เดลินิวส์