ศึกษาอนาคตตลาดเพชร-พลอย ตามรอย'งานแสดงอัญมณีโลก' ที่ฮ่องกง

นับถอยหลังไปราว 5 ปี ก่อนหน้านี้ งานแสดงสินค้าอัญมณีที่ฮ่องกง มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมงานกันอย่างหนาแน่น รวมถึงงานล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ที่เพิ่งผ่านไป เหตุผลหนึ่งอาจเป็นผลมาจากรัฐบาลฮ่องกงยกเว้นภาษี แต่ที่สำคัญสุดก็เนื่องเพราะลูกค้าจีนแผ่นดินใหญ่ที่ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากจะทะลักเข้ามาร่วมงานนี้ไม่ขาดสาย

จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ประกอบการไทยที่มาออกร้านในงานแสดงสินค้าอัญมณีที่ฮ่องกงนี้พบว่า งานแสดงสินค้าอัญมณีในไทยชาวต่างชาติเข้าไปเลือกซื้อน้อยลง จนส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายทยอยปิดตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการอย่าง เคนเนธ สคาแรทท์ ชาวอังกฤษที่เดิมเป็นทหารในกองทัพผ่านสงครามศาสนามาสามครั้ง จนตำแหน่งสุดท้ายทางราชการเป็นทหารรักษาเครื่องเพชรของพระราชินี หลังจากนั้นได้ศึกษาศาสตร์อัญมณีเรื่อยมา ปัจจุบันคุมบังเหียนเป็น ผู้จัดการสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (จีไอเอ) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและตรวจวิเคราะห์อัญมณี จีไอเอ ประเทศไทย มองว่า ตอนนี้อัญมณีมีการปรับเปลี่ยนมากมายเพื่อให้เป็นสีหรือรูปทรงที่ได้รับความนิยม ดังนั้น การซื้อขายโดยมีใบรายงานคุณลักษณะของอัญมณี จึงมีความจำเป็น ขณะเดียวกันสถาบันที่ออกใบรับรองต้องไม่มีข้อเกี่ยวพันกับร้านค้า

ด้าน การเลือกซื้ออัญมณีควรดูแบบที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด เพราะยิ่งผ่านการปรุงแต่งมากเท่าไหร่ราคาการขายยิ่งถูก สำหรับ พลอยจะนิยมแบบไม่เผา และจะไม่มีการแยกประเภทแต่จะแบ่งได้ตามแหล่งที่มา เช่น พลอยพม่า พลอยโคลัมเบีย ไม่ต่างจากมุกที่ต้องดูถึงความสะอาดในเม็ด ที่ผ่านมาร้านค้ามุกเคยประสบปัญหาอย่างหนักเนื่องจากมุกน้ำจืดจากจีนล้นตลาด ซึ่งตอนนั้นสามารถนำมุกมาทำเป็นกระดุมขายได้เลย

“เป็นเรื่องยากที่จะบอกผู้ซื้อว่า อัญมณีชิ้นไหนเป็นของจริงหรือของปลอม หากไม่นำเข้าไปตรวจในห้องวิจัย ผู้ซื้อส่วนใหญ่ใช้มาตรฐานทางอารมณ์และความพึงพอใจในสินค้าเป็นหลัก ทางที่ดีหากเป็นสินค้าจิวเวลรี่ราคาไม่แพงไม่จำเป็นต้องขอดูใบรายงานคุณลักษณะของอัญมณี แต่ถ้าสินค้านั้นต้องใช้เงินเดือนถึงสามเดือนซื้อจำเป็นจะต้องขอดูเพื่อความมั่นใจในสินค้า”

นอกจากนี้ผู้ประกอบการควรให้ข้อมูลที่เป็นจริงต่อลูกค้า ในภาพรวมตลาดอัญมณีทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยิ่งมีราคาสูงเนื่องจากหลายเหมืองในต่างประเทศเริ่มปิดตัวลง อย่างเช่น พลอยแดงของไทยที่ไม่มีการทำเหมืองแล้ว แต่สินค้าที่อยู่ในตลาดจะเป็นของเก่าที่นำมาขายใหม่และคุณภาพแต่ละเหมืองจะไม่เหมือนกัน หากยังไม่มั่นใจสามารถนำมาตรวจในศูนย์วิจัยได้

“การซื้อเครื่องประดับนอกจากต้องคำนึงถึงความชอบแล้วยังต้องให้ความสำคัญของฐานะการเงินตนเอง ไม่ควรซื้อมากจนตนเองต้องเดือดร้อน ควรใช้อย่างพอเพียงไม่เกินตัวมากกว่าจำเป็น”

ด้าน พิราพรรณ เบลม้อนท์ ผู้บริหารร้าน เค.วี.เจมส์ ซึ่งนำพลอยของร้านมาขายในครั้งนี้ เป็นอีกคนที่มองการเปลี่ยนแปลงของวงการพลอย เนื่องจากเป็นคนจันทบุรี ซึ่งเดิมมีบ่อพลอยมากแต่ตอนนี้ไม่มีการทำเหมืองพลอยในไทยแล้ว กล่าวว่า แต่ก่อนที่จันทบุรีแต่ละบ้านมีพลอยเป็น กระสอบอยู่ใต้เตียง พอเลิกการทำเหมืองส่งผลให้พลอยทับทิมสยามขาดแคลนจากตลาด โดยเฉพาะพลอยแดงที่มีความเข้มของสีและเป็นที่ต้องการของลูกค้า

พลอยที่ได้รับความนิยมเป็นพลอยไม่เผา ส่วนที่ผ่านการเผาแล้วจะมีราคาถูกไม่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นพลอย แนวโน้มดังกล่าวเป็นความนิยมโดยทั่วไปของอัญมณีทุกแบบที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ตลาดลูกค้าส่วนใหญ่ตอนนี้เป็น ยุโรป อเมริกา เอเชีย ตามลำดับ

พลอยสีที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วตอนนี้เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งตั้งแต่เจ้าชายวิลเลียมประกาศอภิเษกสมรสด้วยแหวนประดับพลอยน้ำเงินทำให้ตลาดในยุโรปมีความต้องการอย่างสูง และเริ่มมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่ถ้าโดยภาพรวมพลอยแดงก็ยังได้รับความนิยม เนื่องจากหลายประเทศในเอเชียเชื่อว่าเป็นสีของความเป็นมงคล และสีดังกล่าวยังเป็นพลอยที่หายากมากโดยพลอยแดงที่ขึ้นชื่อเป็นของพม่า แต่ปัจจุบันพลอยพม่าเริ่มขาดตลาดทำให้ต้องหาพลอยแดงจากแหล่งอื่นมาทดแทนเช่น แคชเมียร์, มาดากัสการ์

สำหรับ ความนิยมพลอยในไทยยังมีไม่มากเพราะคนไทยชอบเพชรมากกว่า แต่สำหรับตลาดจีนยังมีความต้องการพลอยมรกต ซึ่งแรงขึ้นมาตามความเชื่อแบบจีน ซึ่งการเลือกซื้อพลอยควรดูที่เนื้อสะอาดไม่มีรอยแตก มีเหลี่ยมมุมที่ให้แสงได้ดี หรือหาก ไม่มั่นใจสามารถเรียกดูใบรายงานคุณลักษณะของอัญมณีในสินค้าที่มีราคาสูง

ตอนนี้ผู้ประกอบการพลอยในไทยหลายรายเลิกกิจการไปเนื่องจากสภาพการเมืองยังไม่นิ่ง และงานแสดงสินค้าอัญมณีที่ผ่านมายังไม่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ ทำให้ตนต้องพยายามมาออกแสดงสินค้าในต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง แทน

ส่วนร้านจิวเวอร์เมอร์ ผลิตไข่มุกสีทองที่ได้จากท้องทะเลฟิลิปปินส์ เล่าว่า ตอนนี้ ตลาดมีความต้องการไข่มุกสีทองมาก แต่การผลิตยังไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากภาวะโลกร้อนและน้ำทะเลที่สูงขึ้นเพิ่มความเป็นกรดในน้ำมากขึ้น ส่งผลให้ไข่มุกผลิตได้น้อยลงแถมยังมีประสิทธิภาพที่ไม่ดีเหมือนแต่ก่อน

อนาคตเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าไข่มุกจากธรรมชาติบางสีจะไม่มี เนื่องจากสูญพันธ์ุด้วยภาวะของโลกร้อน และจะส่งผลอย่างมากต่อวงการไข่มุกที่ราคาซื้อขายจะเพิ่มจากตอนนี้ไปอีก 20–25 เปอร์เซ็นต์

อัญมณีในอนาคตราคาอาจแพงขึ้นอย่างน่าตกใจ เนื่องจากทรัพยากรเริ่มลดลง ดังนั้นอนาคตอันใกล้ของวงการเครื่องประดับยังเป็นที่น่าจับตามอง.

การดูแลรักษาอัญมณีให้สวยงามคู่กาลเวลา

เพชร มีความแข็งเป็นอันดับ 1 ในบรรดาสสารทั้งหมดในโลกนี้ มีการทนต่อความร้อน ทนต่อสภาพกรด-ด่าง และแอลกอฮอล์ การทำความสะอาดเพชรโดย การต้ม หรือ แช่ในน้ำร้อน จึงไม่ทำอันตรายต่อเพชร และ ถ้ามีสิ่งสกปรกเคลือบอยู่บนผิวเพชรมากก็ให้นำไปแช่ในแอลกอฮอล์ หรือเหล้าและเขย่าเบา ๆ (เพื่อให้สิ่งสกปรกละลายได้ง่ายขึ้น) และนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งอีกครั้งด้วยผ้านุ่ม ๆ เพชรจะสะอาดแวววาวหรือถ้าวิธีเหล่านี้ยังไม่ได้ผล ก็แนะนำให้ใช้ โซเดียม คาร์บอเนต (โซดาซักผ้า) ผสมน้ำและนำเพชรไปต้มประมาณ 10-20 นาที แล้วจึงล้างให้สะอาด ระมัดระวังอย่าให้เพชรกระทบกระเทือนกับอะไรแรง ๆ เพราะจะให้ขอบเพชรบิ่นได้และอย่าเก็บเพชรไว้ปะปนกัน เพราะเหลี่ยมของเพชรอาจจะขูดขีดกันเองทำให้เกิดริ้วรอยขึ้นได้

พลอย มีความเหนียวและความเปราะแตกต่างกัน พลอยที่มีความแข็งค่อนข้างต่ำ การสวมใส่ หรือการใช้งานควรมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะเนื้อพลอยจะมีความเปราะ ถ้าไปกระทบกับสิ่งที่มีความแข็งกว่าก็อาจจะทำให้เกิดริ้วรอย หรืออาจแตกร้าวได้ อย่าล้างด้วยน้ำร้อน ๆ เพราะความร้อนจะทำให้น้ำที่แทรกอยู่ในเนื้อพลอยระเหยออกไปได้ง่ายขึ้น ทำให้ผิวของพลอยลดความวาว และความมันลง เพราะฉะนั้นจึงควรล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดพลอย หรือในน้ำธรรมดาที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ อย่าเก็บพลอยด้วยวิธีการแช่ไว้ในน้ำมัน เพราะฝุ่นละอองจะสามารถจับได้ง่าย เมื่อทำการเช็ด ทำความสะอาดผงของฝุ่นละอองจะเกิดการเสียดสี และขูดขีดผิวของพลอย ให้ลดความวาวลงไป ทำให้ประกายของพลอยน้อยลง ซึ่งจะดูไม่สวยงาม ดังนั้น วิธีที่เหมาะสมที่สุดในการทำความสะอาดพลอยคือ แช่น้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ

ไข่มุก ห้ามให้ไข่มุกถูกสารเคมีทุกชนิด เช่น น้ำหอม หรือสเปรย์ต่าง ๆ เพราะสารเหล่านี้จะทำให้ไข่มุกลดความวาวลงได้ ห้ามมิให้ผิวของไข่มุกไปขูดขีดกับวัตถุที่มีความแข็งเพราะผิวของไข่มุกอ่อนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย จึงควรสวมใส่ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ควรใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำสะอาด ทำความสะอาดไข่มุก เพื่อป้องกันฝุ่นละอองที่จะมาเกาะบริเวณผิวของไข่มุก หรือ หลังจากสวมใส่เครื่องประดับมุกแล้วก็ให้นำมาแช่น้ำดื่มไว้ประมาณ 5 นาที จึงเช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ ไม่ควรเก็บไข่มุกรวมกับอัญมณีชนิดอื่น ๆ เพราะจะทำให้เกิดริ้วรอยง่าย.
ศึกษาอนาคตตลาดเพชร-พลอย ตามรอย'งานแสดงอัญมณีโลก' ที่ฮ่องกง
ที่มา เดลินิวส์

คลังบทความของบล็อก