3เศรษฐีเมืองไทย รวยติดอันดับโลก

"มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "เฟซบุ๊ก" แห่งโลกสังคมออนไลน์ รวยแบบก้าวกระโดดขึ้นทำเนียบอภิมหาเศรษฐีโลกจากการจัดอันดับประจำปีของนิตยสาร “ฟอร์บส์” เผยมีทรัพย์ สินถึง 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แถมเพื่อนก็ได้ดีด้วย ขณะที่อันดับ 1 ของโลกยังคงเป็นของ “คาร์ลอส สลิม” เจ้าของธุรกิจโทรคมนาคมจากเม็กซิโก รวยถึง 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ครองแชมป์สองปีซ้อนโดยโค่น “บิล เกตส์” เจ้าของไมโครซอฟต์ร่วงลงไปอยู่อันดับ 2 ส่วนอภิมหาเศรษฐีจากประเทศไทยยังคงมี 3 คนเหมือนเคย เป็นเจ้าสัวซีพี, กระทิงแดง และ ช้าง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ว่า นิตยสาร “ฟอร์บส์” อันทรงอิทธิพลด้านการเงินในสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศผลการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีประจำปี ค.ศ. 2011 โดยระบุว่า ในรอบปีที่ผ่านมา จำนวนอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดอันดับรวมแล้ว 1,210 คนด้วย รวมทรัพย์สินก็เพิ่มขึ้นเช่นกันจาก 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของอภิมหาเศรษฐีในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ป้ายแดงมาจากประเทศบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย และ จีน โดยเฉพาะจีนมีระดับอภิมหาเศรษฐีพันล้านอยู่ถึง 115 คนด้วยกัน ซึ่งคนที่รวยที่สุดของจีนชื่อนายโรบิน หลี่ มีทรัพย์สิน 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านอันดับ 1 ของโลก ซึ่งครองตำแหน่งเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว คือ นายคาร์ลอส สลิม เฮลู เจ้าของธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมและอื่นๆในประเทศเม็กซิโก มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 74,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุเพราะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของเม็กซิโกให้ผลตอบแทนดี ประกอบกับค่าเงินเปโซแข็งตัว รวมทั้งผลกำไรจากธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งทางนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่า ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของเขามาจากการถือหุ้นในธุรกิจโทรคมนาคม อเมริกา โมวิล ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในแถบลาตินอเมริกา

อันดับ 2 ยังคงเป็นของนายบิล เกตส์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป ปัจจุบันเป็นคนใจบุญสุนทานไปแล้ว เขามีทรัพย์สิน 56,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นิตยสารฟอร์บส์ระบุว่า เกตส์ซึ่งเคยเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก ได้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิเกตส์ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การฟื้นตัวของการลงทุนในตลาดหุ้นช่วยให้นักลงทุนอย่างนายวอร์เรน บัฟเฟต์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการที่ผู้คนกลับมาชื่นชอบสินค้าหรูหราส่งผลให้นายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท แอลวีเอ็มเอช ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 7 เป็นอันดับ 4 ของอภิมหาเศรษฐีโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ 10 อันดับแรกนั้นแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นแต่นางคริสตี้ วอลตัน ซึ่งมีพ่อสามีชื่อ แซม วอลตัน กับน้องชาย ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งห้างสรรพสินค้าวอล-มาร์ท เข้ามาอยู่ในอันดับ 10 แทนนายคาร์ล อัลเบรชท์ จากเยอรมนี โดยนางวอลตันอยู่ในหนึ่งของบัญชีรายชื่ออภิมหาเศรษฐีโลกสำหรับผู้หญิง 102 คนในปีนี้ด้วย เธอมีทรัพย์สิน 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนาย
อัลเบรชท์เจ้าของธุรกิจห้างสรรพสินค้าขายปลีกร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 12 ทรัพย์สิน 25,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกนั้น ก็มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากเดิมปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 212 แต่มาปีนี้ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 52 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 13,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เพื่อนร่วมงานอีกสองคนก็ติดอันดับด้วย โดยนายดัสติน มอสโควิทซ์ ก้าวขึ้นมาอยู่ในทำเนียบอภิมหาเศรษฐีโลกกับเขาด้วยเป็นครั้งแรก ทั้งที่อายุแค่ 26 ปี และ มีทรัพย์สิน 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 420

ในส่วนของประเทศไทยนั้น มีติดอันดับ 3 คนเช่นเคย คือ นายธนินท์ เจียรวนนท์เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ อันดับที่ 152 ทรัพย์สิน 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยนายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อ “กระทิงแดง” อยู่ในอันดับที่ 208 มีทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของผลิตภัณฑ์ช้างอยู่อันดับที่ 247 มีทรัพย์สิน 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ.
3เศรษฐีเมืองไทย รวยติดอันดับโลก
ที่มา เดลินิวส์

คลังบทความของบล็อก

83756