ธนบัตรเงินหยวน จีนมี ‘แมวแอ๊บแบ๊วคุกเข่าคารวะ’ ตรงลายเส้นกันปลอม

ธนบัตรเงินหยวน จีนมี ‘แมวแอ๊บแบ๊วคุกเข่าคารวะ’ ตรงลายเส้นกันปลอม
ภาพธนบัตรเงินจีนที่ชาวเน็ตเอามาโพสต์ โดยผ่านโปรแกรมแต่งภาพ ภาพล่าง-ซ้าย ยังได้วาดเส้นสีดำเน้นให้เห็นรูปแมวเหมียวแอ๊บแบ๊วชัดเจน โดยสองตัวคุกเข่าคารวะ เป็นที่ฮือฮาในสังคมออนไลน์และสื่อจีน(ภาพ เอเจนซี)

เปรียบเทียบภาพธนบัตรเงินจีน ที่ไม่ได้ผ่านโปรแกรมแต่งภาพ (ภาพ เอเจนซี)

กลุ่มสื่อจีนรายงาน เมื่อไม่กี่วันมานี้ ชาวเน็ตจีนโพสต์ภาพและข้อความ ระบุ “พบแมวสามตัวบนธนบัตรเงินหยวน มูลค่าหน้าบัตร 100 หยวน รุ่นที่พิมพ์ครั้งที่ 5 โดยแมวสองตัวนั่งคุกเข่าในท่าไหว้คารวะ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านธนบัตร ปฏิเสธว่า ภาพแมวบนธนบัตรฯเป็นจินตนาการของชาวเน็ต

ชาวเน็ตยังได้ตัดภาพออกมาและขยายใหญ่ ชี้ให้เห็นแมวสามตัวหน้าตาแอ๊บแบ๊ว ข้างใบหน้าประธานเหมา เจ๋อตง ตัวหนึ่งยืนยกเท้าหน้าขึ้นอ้าปากเบิ่งตากว้าง อีกสองตัวนั่งข้างซ้ายขวาในท่าคุกเข่าคารวะ

ผู้สื่อข่าวจีนระบุ ชาวเน็ตได้ตัดภาพและขยายใหญ่ตรงบริเวณลายเส้นข้างใบหน้าเหมา เจ๋อตง และยังได้วาดเส้นสีดำเน้นให้เห็นเป็นรูปภาพแมวชัดเจน

แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านธนบัตรเงินตราจากมณฑลเหอหนัน นาย หยวน อิ๋นหลง ออกมาโต้แย้ง “ภาพบนธนบัตรเงินหยวน ไม่ใช่ภาพแมวเหมียว หรือแมวคารวะเทพ มันมาจากจินตนาการของคน

“หรือหากมันเป็นรูปแมวจริงๆ ก็คงไม่ผ่านการอนุมัติออกมาแน่นอน”

หยวน อิ๋นหลง ยังกล่าวว่า ตรงลายเส้นที่ชาวเน็ตชี้ว่าเป็นรูปแมวนั่งคารวะ เป็นแบบจากเทคโนโลยีป้องกันการปลอม ซึ่งเทคโนโลยีนี้ “เป็นความลับของชาติ”

สื่อจีนระบุ แบบของธนบัตรอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของธนาคารประชาชนจีน (ซึ่งเป็นธนาคารกลางจีน) เจ้าหน้าที่ได้กำหนดแบบบางส่วนเป็นความลับ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง

เผยจีนเคยซ่อน ‘รหัสลับ’ บนธนบัตรเงินจีน
ผู้เชี่ยวชาญด้านธนบัตร หยวน อิ๋นหลง เผยว่า จริงๆแล้วการพบ ‘รหัสลับ’ บนธนบัตร ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ในประวัติศาสตร์ก็มีการฝังรหัสลับบนหน้าธนบัตร เช่น ในปี 1944 (2487) ธนาคารคารกลางของรัฐบาลหุ่นเชิดญี่ปุ่น ได้ออกธนบัตร มูลค่าหน้าบัตร 200 หยวน พร้อมกับพิมพ์รหัสลับอักษรภาษาอังกฤษตัวจิ๋ว ‘US-AC’ ซ่อนไว้ที่ธนบัตร ‘US-AC’ นี้ มีความหมายว่า “อเมริกันมาแล้ว” สะท้อนถึงความแค้นต่อญี่ปุ่นในยุคนั้น โดยขณะนั้นสหรัฐฯและจีนได้ร่วมมือกันเป็นพันธมิตรต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น สะท้อนจิตใจรักชาติที่ซ่อนในใจคนจีน
ที่มา โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



คลังบทความของบล็อก