“ฟอร์บส์” จัดอันดับอภิมหาเศรษฐีชาวไทยปีล่าสุด

“ฟอร์บส์” จัดอันดับอภิมหาเศรษฐีชาวไทยปีล่าสุด เจ้าสัวซีพี “ธนินท์ เจียรวนนท์” รั้งอันดับ 1 อภิมหาเศรษฐีชาวไทย นิตยสาร “ฟอร์บส์” ระบุ มูลค่าทรัพย์สินกว่า 2 แสนล้าน ขณะ “เฉลียว อยู่วิทยา” มาเป็นอันดับ 2

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เว็บไซต์ของนิตยสาร “ฟอร์บส์” นิตยสารทรงอิทธิพลด้านการเงินของสหรัฐ รายงานในบทความเรื่อง “40 อภิมหาเศรษฐีในประเทศไทย”
โดยผู้สื่อข่าวชื่อนายไบรอัน เมอร์เตนส์ ระบุว่า แม้ประเทศไทยจะสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองปรากฏเป็นระยะๆ แต่การถ่ายโอนอำนาจในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานั้นก็ค่อนข้างที่จะสงบเรียบร้อย


หลังเกิดเหตุนองเลือดในระหว่างการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นของไทยและเศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทยซึ่งปรับขึ้นสูงสุดถึงร้อยละ 21.7 ในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 15 ปี นอกจากนั้นแล้วค่าเงินบาทของไทยก็ยังแข็งค่าขึ้นร้อยละ 6.1 ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน รวมถึงผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี)ของไทยก็คาดว่าในปีนี้จะปรับสูงขึ้นร้อยละ 4 และการที่พรรคเพื่อไทยของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประสบชัยชนะอย่างงดงามในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดแรงสนับสนุนต่อการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวกลับคืนมาและการส่งออกที่แข็งแกร่งขึ้น

ผลพวงดังกล่าวส่งผลให้ในปีนี้มีอภิมหาเศรษฐีคนไทยเพิ่มขึ้น โดยมหาเศรษฐีไทยทั้ง 40 คนนั้น ต่างก็มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 มูลค่ารวมกันแล้วประมาณ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทรัพย์สินที่เพิ่มมากขึ้นเหล่านี้ทำให้นักอุตสาหกรรมทั้งหลายหันมาลงทุนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ซึ่งอยู่อันดับที่ 17 ในจำนวน 40 อภิมหาเศรษฐีชาวไทย ซึ่งมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 137 อันเนื่องจากผลกำไรจากธุรกิจเอกชนจากบริษัทสายการบินบางกอกแอร์เวย์สของเขา และ ราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้นจากกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน บางกอก ดุสิต เมดิคัล เซอร์วิส จำกัด ตามมาด้วยน.พ.พงษ์ศักดิ์ วิทยากร อันดับที่ 28 เจ้าของโรงพยาบาลกรุงเทพ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 121 สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้

สำหรับอันดับที่ 1 ของ 40 อันดับอภิมหาเศรษฐีไทยได้แก่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 7,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 222,000 ล้านบาท) ตามมาด้วยอันดับ 2 นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลัง “กระทิงแดง” ทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) อันดับ 3 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่ม “ตราช้าง” มีทรัพย์สิน 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 144,000 ล้านบาท)

ในส่วนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอยู่ในขณะนี้ อยู่ในอันดับที่ 19 ของการจัดอันดับครั้งนี้ เพราะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นร้อยละ 53 คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18,000 ล้านบาท) อันเนื่องมาจากการแตกหุ้นและราคาหุ้นของบริษัทเอสซี แอสเซ็ตต์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขอตระกูลชินวัตร เพิ่มขึ้นสูงเป็นสองเท่า และ หลังจากการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ทางกระทรวงการคลังยอมรับว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินของศาลที่ให้คืนเงินภาษีที่อายัดไว้ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐของลูกพ.ต.ท.ทักษิณ

มหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ติดอันดับก็ยังมีนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อยู่อันดับที่ 29 ทรัพย์สิน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ นายพีท โพธารามิก แห่งจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล อยู่อันดับที่ 34 ทรัพย์สิน 245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์ เจ้าของบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตรท อยู่อันดับที่ 11 นายวิทย์ วิริยประไพกิจ เจ้าของสหวิริยา อยู่อันดับที่ 25 นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานบริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส อยู่อันดับที่ 16 และ นายนิติ โอสถานุเคราะห์ เจ้าของโอสถสภา อยู่อันดับที่ 34 เป็นต้น
ที่มาเดลินิวส์

คลังบทความของบล็อก